วันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555

รักอย่างไรให้สมหวัง (4)


ต่อไปนี้คือ สิ่งที่ไม่ควรทำกับคนรักของคุณ โดยแยกออกเป็น 3 ส่วนคือ
1.  ความคิด
     1.1 ผู้ชายส่วนใหญ่คิดว่าตนเองสำคัญกว่า เก่งกว่าผู้หญิง เพราะทำงานเหนื่อยกว่า รับผิดชอบครอบครัวมากกว่า สุดท้าย…… เพราะเป็นเพศที่เหนือกว่า ซึ่งเป็นทัศนคติผิดๆและเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาความรักไปสู่ระดับที่สูงขึ้น (ดูเรื่องสมองของผู้หญิงกับผู้ชายต่างกันอย่างไร)

     1.2 ขี้ระแวงสงสัย ไม่ไว้ใจ มักเป็นฝ่ายหญิง……..อันเนื่องมาจากพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจของฝ่ายชาย เรื่องนี้ดูเหมือนว่ามีความเป็นสากลอยู่มาก เพราะเคยจดประโยคถูกใจภาษาอังกฤษไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวสมัยหนุ่มๆ 

“Women are like the police. They can have all the evidence in the world, but they still want the confession”

พวกผู้หญิงก็เหมือนตำรวจ ต่อให้มีพยานหลักฐานครบถ้วนทุกอย่างแล้ว ก็ยังต้องการคำรับสารภาพอยู่ดี

      1.3  ผู้ชายคิดว่า ผู้หญิงมีหน้าที่เลี้ยงลูก ทำงานบ้าน ทำอาหาร ผู้ชายหาเงิน
                 ผู้หญิงคิดว่า ผู้ชายมีหน้าที่แก้ไขพฤติกรรมของลูก

      1.4  ผู้ชายคิดว่าตนเองมีสิทธิที่จะทำสิ่งที่ผู้หญิงทำไม่ได้ เช่น การมี sex นอกสมรส  

2. อารมณ์ ต่อไปนี้เป็นอารมณ์ที่มักนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างคนรัก และทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้เสมอ

       2.1  หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย หาเวลาอารมณ์ดีได้ยาก
       2.2  เวลาโกรธมักไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ใช้วิธีทำร้ายตัวเอง ทำร้ายคนรัก หรือขว้างปาสิ่งของ
       2.3  หึงหวง เจ้าอารมณ์ ไม่ยอมฟังคำอธิบายใดๆ      
       2.4  เป็นคนไร้อารมณ์ โดยเฉพาะอารมณ์ขัน
       2.5 อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย 
       2.6 อารมณ์ทางเพศต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ย ไม่ตอบสนองอารมณ์ทางเพศให้แก่คนรักอย่างเหมาะสม

3.  พฤติกรรม
    3.1  จู้จี้ ขี้บ่น พูดมาก พูดไม่หยุด พูดซ้ำๆซากๆ ไร้สาระ เสียดสี เหน็บแนม ดูถูกเหยียดหยาม ตำหนิติเตียน โกหกหลอกลวง และคำพูดในเชิงลบอื่นๆทั้งหมด
    3.2  เอาแต่ใจ ขี้งอน เกรี้ยวกราด
     3.3 ให้คนรักซื้อสิ่งของราคาแพงหรือฟุ่มเฟือยให้ ชอบทำตัวเป็นคนมีรสนิยมสูงทั้งๆที่มีรายได้น้อย
     3.4  เช็คมือถือ, e-mail, face book, ค้นลิ้นชักหาหลักฐาน ฯลฯ
    3.5  เปรียบเทียบกับแฟนเก่า
     3.6 สวมบทบาทพนักงานสอบสวนเวลาจะนอน
แต่ละข้อดูเหมือนจะเป็นคุณสมบัติของผู้หญิงมากกว่าผู้ชายนะครับ (ขอเข้าข้างเพศเดียวกันบ้าง)

            งานวิจัยหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ปัจจัยที่ทำให้รักยืนยาว (Alexander & Higgins, 1993) พบว่า มีอยู่ 4 ประการ คือ
      1.  ภรรยายังคงมีความรู้สึกรักในแบบเสน่หาต่อสามี (Passionate love)
      2.  ภรรยาและสามี มีกิจกรรมต่างๆร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ เช่น งานอดิเรก การออกกำลังกาย การเล่นกีฬา การพักผ่อน 
                 การเดินทางร่วมกันในโอกาสต่างๆ (ธุรกิจ พักผ่อน) งานการกุศล
      3.  เป็นคนมีอารมณ์ขันด้วยกันทั้งคู่
      4.  มีความสุขและพึงพอใจในความสำเร็จของลูกๆ

         ส่วนปัจจัยที่ทำให้ชีวิตรักไม่มีความสุข หรือล่มสลาย พบว่า มีอยู่  5 ประการ คือ
      1.  ความไม่ซื่อสัตย์ (การนอกใจ) รวมทั้ง ความหึงหวงที่เกิดจากความระแวง
      2.  ไม่มีการประนีประนอม (ทำนอง รักสั้นให้ต่อ นั่นไง)
      3.  ขาดทักษะการเจรจาสื่อสารฉันภรรยาสามี
      4.  ค้นพบความแตกต่างกันในเรื่องต่างๆตามอายุที่มากขึ้น
      5.  ความไม่สมหวัง/พึงพอใจในเรื่องเพศสัมพันธ์               

         นอกจากนั้น ยังพบอีกว่า คู่รักที่มีความสุขโดยทั่วไป พวกเขามักมีหลายสิ่งที่เหมือนกัน เช่น
      1.  ไม่ชอบการทะเลาะเบาะแว้ง หรือมีก็พยายามหลีกเลี่ยง (ทำนอง รักยาวให้บั่น นั่นเอง)
      2.  เป็นคนใจบุญ ชอบช่วยเหลือไม่ว่ากับคนหรือสัตว์
      3.  ห่วงใยและดูแลคนรักอย่างเต็มที่ยามเจ็บป่วย
      4.  สามารถอยู่คนเดียวได้เมื่อจำเป็น
      5.  มีเพื่อนดีและมีกิจกรรมทางสังคมกับเพื่อนๆ
      6.  สนใจเรื่องเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน (ทำให้มีเรื่องคุยกันได้ตลอด และไม่ขัดคอกันด้วย)              
         
                        ดูไปแล้วสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด ล้วนเป็นเรื่องสามัญสำนึก (Common sense) แต่มักถูกมองข้ามไป จะด้วยสาเหตุใดก็คงต้องฝากให้พิจารณากัน ผมเองคิดว่า เกิดจากเราทุกคนมีความอยาก ความต้องการที่ไม่รู้จักพอ จึงมีความร้อนรุ่มที่จะมีเพิ่ม หาเพิ่มอยู่เรื่อยๆ การแบ่งปันกลายเป็นความทุกข์และความอึดอัด เห็นใครมีมากกว่าก็อิจฉา คอยนินทาว่าร้ายคนอื่น นานไปจึงกลายเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้าย ไม่เป็นมิตร จิตใจไม่เคยสงบเพราะโลภอยู่ตลอด คนที่ไปถึงจุดแห่งความ พอได้ก่อนจึงจะมีความสุขก่อน เสมือนหนึ่งเดินเข้าเส้นชัยแห่งถนนชีวิตก่อนในขณะที่ยังมีชีวิต ไม่ต้องรอวันตาย เพราะถึงวันนั้น ทุกอย่างก็สายเสียแล้ว ถึงลูกหลานจะทำพิธีกรรมส่งสิ่งของไปให้ใช้ในภพอื่น ก็ไม่มีใครรู้ว่าจะไปถึงหรือไม่

สรุป
                การเลือกคู่ครอง เป็นเรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิตของเรา เสน่ห์ทางเพศ เป็นเพียงประตูบานแรกที่เปิดออกต้อนรับรัก แต่ไม่ว่าคุณจะมีเสน่ห์ทางเพศครบทุกองค์ประกอบก็ตาม หากไม่มีเสน่ห์หรือใช้สิ่งดีที่มีอยู่อย่างไม่ถูกต้องเสียแล้ว ทุกอย่างก็แทบจะหมดความหมาย สัจจะธรรมแห่งรักคือ ความรักไม่เคยง่าย หากง่ายก็ไม่ใช่ความรักที่แท้จริง ในขณะที่เรากำลังมีความรัก เราอาจมีสติรับรู้ในสิ่งที่กำลังทำอยู่เพียงบางส่วนเท่านั้น ที่เหลือเป็นเรื่องของสัญชาติญาณ แรงขับจากฮอร์โมนเพศ ทัศนคติ และแรงกดดันจากสังคม เราจึงควรมีความตระหนักอยู่ตลอดเวลาว่า
  
                     “ความรักของเราอาจไม่ยั่งยืน
                                                หากไม่รู้จักวิธีบริหารเสน่ห์ทางเพศ
                                                                ด้วยความมีเสน่ห์ของเราอย่างเหมาะสม

 บทต่อไปเป็นบทสุดท้ายแล้ว ล่ำลากันตามสมควรนะครับ ขอใช้หัวข้อว่า สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด

ไม่มีความคิดเห็น: