วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

อกหัก..........ช่วยด้วย (3)


ทำไมคนเราจึงอกหัก ?
       อกหัก……ดีกว่ารักไม่เป็น !   
       คุ้นไหมครับ ประโยคนี้
       ช่วยปลอบใจได้ดีทีเดียว แต่ความหมายที่แท้จริงของมันคืออะไร
       คนอกหักอาจจะอยากบอกว่า ฉันก็มีความรักนะ ไม่ใช่คนไม่มีหัวใจ
       ทำให้บางคนอยากย้อนถามว่า ถ้ารักเป็นแล้วทำไมยังอกหักล่ะ
       เพราะฉะนั้น ถ้าพูดว่า  อกหัก ดีกว่าไม่เคยมีรัก น่าจะถูกต้องกว่า
       แต่ผมอยากจะบอกว่า 
                                 อกหัก………เพราะรักไม่เป็น ต่างหากล่ะ
       
       พูดเหมือนซ้ำเติมกันชัดๆ ผมจึงอยากจะให้ความหมายของคำว่า  รักไม่เป็น ให้ท่านทั้งหลายได้พิจารณากัน ดังนี้ครับ

   1.  รักผิดคน
              คือ รักคนที่ไม่เหมาะกับคุณ ไม่ได้หมายความว่า เขาหรือเธอเป็นคนไม่ดี เพียงแต่มีคุณสมบัติบางอย่างที่ไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิตคู่ร่วมกับคุณ(ในระยะยาว) ดังที่ได้กล่าวไว้ในบทก่อนว่า ผมให้ความสำคัญต่อ บุคลิกภาพ  มากที่สุด ซึ่งหมายถึง วิธีคิด ลักษณะของอารมณ์ในภาวะปกติและการจัดการกับอารมณ์ยามไม่ปกติ ตลอดจนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตทั่วๆไป นิสัยใจคอ เช่น ขยัน-ขี้เกียจ, ซื่อสัตย์-ขี้โกง, ถ่อมตัว-ขี้คุย, พูดน้อย-พูดมาก, เงียบขรึม-ร่าเริง, ชื่นชมคนเก่งคนดี-ขี้อิจฉา, มุ่งมั่น-เหลาะแหละ, ทะเยอทะยาน-มักน้อย, ความรับผิดชอบ, คุณธรรม ศีลธรรมเป็นอย่างไร ที่เหลือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญรองลงไป เช่น ระดับการศึกษา, ฐานะทางการเงิน, รสนิยม, ศาสนา อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ควรมีความแตกต่างกันมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดความขัดแย้งในระยะยาวได้
             
              สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ สังคมไทยยังมีลักษณะครอบครัวขยาย (extended family) อยู่มาก คือ มีคนหลายรุ่นอยู่ในบ้านเดียวกัน เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา พ่อ แม่ ลูก ญาติ  ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีคู่รักจำนวนไม่น้อยแยกบ้านไปอยู่เป็นครอบครัวเดี่ยว (nuclear family) กันแล้วก็ตาม แต่ยังคงได้รับอิทธิพลจากครอบครัวเดิมอยู่ ไม่เป็นอิสระอย่างแท้จริง ประเด็นนี้ได้สร้างปัญหาให้กับครอบครัวจำนวนมาก หากคู่รักของคุณเป็นคนขาดหลักการและไม่ยึดมั่นในเหตุผลที่ถูกต้อง ปล่อยให้พ่อแม่หรือสมาชิกในครอบครัวของเขาเข้ามาก้าวกายชีวิตคู่มากเกินไป หรือคุณเองก็ปฏิบัติในทำนองเดียวกัน ก็อาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างคุณทั้งสอง จนนำไปสู่การล่มสลายของชีวิตครอบครัวในที่สุด ทั้งนี้ คุณควรพิจารณาตัวเองด้วยว่า มีข้อเสียอะไรบ้างที่พวกเขารับไม่ได้ เมื่อพบแล้วก็ควรรีบแก้ไข ลดทิฐิลงบ้าง พยายามพิสูจน์ตัวเองว่าคุณไม่ใช่คนเลวร้ายในแบบที่พวกเขาคิด เป็นสิ่งที่ทำได้ยากในวิถีชีวิตแบบไทยๆ ต้องใช้เวลา ความอดทน ความเข้าใจ และกำลังใจจากคนรัก ปัญหาเช่นนี้ คนที่น่าเห็นใจที่สุดก็คือ คนกลางหรือคู่ชีวิตของคุณนั่นเอง (หากเขายืนอยู่ข้างคุณ และคุณเองก็ต้องเป็นคนที่ควรจะถูกยืนเคียงข้างด้วย) หน้าที่ของคุณคือ ต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่คนรักโดยปราศจากอคติใดๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยากเช่นเดียวกัน  
                
            ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ จะให้แน่ต้องดูถึงยาย ยังคงเป็นสุภาษิตสอนการเลือกคู่ครองได้เป็นอย่างดี  แต่ดูเหมือนว่า ฝ่ายชายเท่านั้นที่มีสิทธิเป็นฝ่ายเลือก ดังนั้น
                           
             ดูช้างให้ดูหาง ดูนายและนาง ให้ดูทั้งพ่อและแม่ จะให้แน่ต้องดูถึง ปู่ ย่า ตา ยาย และญาติพี่น้อง
              น่าจะฟังดูยุติธรรมกว่านะครับ
 (รายละเอียดที่เหลือดูเพิ่มในบท ความเข้ากันได้ของคู่รัก”)
    
  2.  รักผิดเวลา
             เรื่องน่าเศร้าเกี่ยวกับความรักในวัยรุ่นที่เป็นข่าวอยู่เสมอๆก็คือ การฆ่าตัวตาย เพราะความผิดหวังในรัก นำความโศกเศร้ามาสู่พ่อแม่และเครือญาติ  รักในวัยเรียน คนส่วนใหญ่ สามารถเข้าใจได้ว่า เป็นเรื่องธรรมชาติ เกิดจากอิทธิพลของฮอร์โมนเพศและความอยากรู้อยากทดลอง ไม่ต่างอะไรกับยาเสพติด เพราะปัญหาทั้งสองนี้ มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ มันเป็นสิ่งเสพติด เกิดความเปลี่ยนแปลงของสารเคมีกลุ่มเดียวกันในสมอง ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการ  เหลือเชื่อใช่ไหมครับ (หากคุณยังไม่ได้อ่านบทที่ว่าด้วยสารเคมีและฮอร์โมนแห่งรักเพราะกระโดดข้ามมาอ่านบทนี้ก่อน ขอให้ย้อนกลับไปอ่านบทนั้นดูนะครับ คุณจะค้นพบความมหัศจรรย์แห่งกลไกการทำงานของสมองที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์รักในแบบที่คุณคาดไม่ถึงมาก่อน)
             กรณีของรักผิดเวลาอื่นๆ เช่น รักในยามยาก ขัดสนเงินทอง ไม่มีงานทำ ตกงาน ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เรือรักไปไม่ถึงฝั่ง ถึงแม้จะรักกันเพียงใดก็ตาม ความยุ่งยากเริ่มเกิดตั้งแต่ค่าใช่จ่ายระหว่างการเกี้ยวพาราสีและการสร้างสัมพันธภาพเบื้องต้น ค่าสินสอดทองมั่น หากบังเอิญว่ามีหนุ่มใหญ่เงินหนาเข้ามาในชีวิตที่กำลังขัดสนของหญิงสาว (ซึ่งมักมีความรักในแบบ Pragmatic love - ดูบท ประเภทของความรักประกอบ) ร่วมกับแรงกดดันจากบุพการี ก็อาจทำให้ฝายหญิงเปลี่ยนใจ ฝ่ายชายด้อยฐานะจึงกลายเป็นคนอกหักเพราะรักผิดเวลา หรืออาจรักผิดคนด้วยก็ได้

  3.  รักผิดกติกา
             เช่น รักคนที่มีเจ้าของ  รักคนอื่นตอนที่คุณมีเจ้าของ รักโลเลหรือรักโลภมาก คือรักตั้งแต่สองคนขึ้นไป รักพี่เสียดายน้องแถมยังอยากได้แฟนเพื่อนอีกคน ทำตัวเป็นคาสซาโนว่ากลับชาติมาเกิด กรณีนี้มีปรากฏเป็นข่าวอยู่บ่อยๆเช่นกัน และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆของคนไทยเสียด้วย คือ พิศวาสฆาตกรรม

  4.  รักแบบหลง
             รักแบบไม่ลืมหูลืมตาเพราะไปหลงในเพศรส (ลีลาอันเร่าร้อนทางเพศ)  รักความสวย ความหล่อ ความงามแห่งเรือนร่าง โดยไม่มีปัจจัยหลักอื่นๆที่สำคัญกว่ารองรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาการหลงขั้นเสพติดในเพศรสนั้น ดูจะมีความรุนแรงกว่าเรื่องอื่น และทำให้เสียผู้เสียคนกันมานักต่อนัก ในรายที่ไปเป็นชู้ภรรยาเขาก็ต้องจบชีวิตลงดังที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่เนืองๆ อีกทั้งยัง ได้รับการประณามหยามเหยียดจากสังคมอีกด้วย

   5.  รักผิดเพศ
              เช่น หญิงรักชายประเภท เสือใบ (Bisexual) แล้วมารู้ความจริงภายหลัง ทำให้ผิดหวังอย่างรุนแรง ส่วนใหญ่ไม่สามารถยอมรับความจริงได้ จำต้องแยกทางกันไป หรือหากต้องอยู่ด้วยกันเพื่อลูก ก็ไม่สามารถกลับไปมีความสัมพันธ์ในแบบเดิมได้อีก งานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า ผู้หญิงจะรู้สึกหึงหวงสามีที่ไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายมากกว่าไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง แต่ไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนในเรื่องนี้ คงต้องให้นักวิชาการเขาหาคำตอบกันต่อไป

    6.  รักเพราะความเชื่อและทัศนคติผิดๆเกี่ยวกับความรัก
               เช่น รักเพราะคิดว่า ตนเองสามารถจะเปลี่ยนนิสัยคนรักได้ เช่น เลิกดื่มเหล้า เลิกเที่ยวกลางคืน เลิกเจ้าชู้ เลิกเล่นการพนัน เลิกจู้จี้ขี้บ่น  จิตวิทยาพัฒนาการทางบุคลิกภาพ สรุปไว้ว่า บุคลิกภาพของคนเราจะมีการพัฒนาตั้งแต่เกิดจนถึงจุดคงที่ในช่วงอายุวัยรุ่นตอนปลาย คือประมาณ 18-20 ปี หากจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกก็ต้องมีเหตุจูงใจอย่างมาก เช่น เลิกดื่มเหล้าหลังจากขับรถประสบอุบัติเหตุจนลูกเมียเสียชีวิตเนื่องจากตัวเองเมาแล้วขับ, เลิกเจ้าชู้เนื่องจากลูกสาวสุดที่รักอกหักเพราะได้แฟนหลายใจ แล้วเกิดสำนึกในเรื่องกฎแห่งกรรมขึ้นมา แต่ก็ไม่เสมอไป ขึ้นกับระดับศีลธรรมและความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของแต่ละบุคคล
              ที่พบบ่อยอีกอย่างหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชาย คือ รักเพราะเชื่อว่า คุณลักษณะต่างๆที่ดีของเธอจะมีค่าคงที่ เช่น ความสาว ความสวย ความงามแห่งเรือนร่าง ความน่ารักไร้เดียงสา พูดจาน่าฟัง ไพเราะอ่อนหวาน นิสัยเอาอกเอาใจ จนลืมกฎแห่ง อนิจจัง คือความไม่เที่ยงแท้ของสังขารและจิตใจ

   7.  ขาดองค์ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับความรัก
              เริ่มจากตัวเองก่อน คือ ต้องรู้จักบุคลิกภาพของคุณเองว่าเป็นคนอย่างไร และคนแบบไหนจึงจะเหมาะกับคุณ ความรู้ในหัวข้อ บุคลิกภาพกับความรัก คงพอเป็นแนวทางในการเลือกคู่รักที่เหมาะสมสำหรับคุณได้บ้าง แต่ควรพิจารณาความเหมาะสมด้านอื่นๆร่วมด้วย ยิ่งมีความเข้ากันได้มากเพียงไร ความเสี่ยงต่อการเลือกคนผิดก็จะลดลงมากเท่านั้น ความยากลำบากก็คือ คนเหล่านั้นมักถูกเลือกไปก่อนแล้ว ทุกๆคนจึงควรสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตัวเองด้วยการพัฒนาคุณสมบัติต่างๆอันเป็นที่ปรารถนาของเพศตรงข้าม  อย่าทำตัวเป็นฝ่ายเลือกเท่านั้น ต้องทำตัวให้น่าถูกเลือกด้วย
            บังเอิญว่าวันนี้ (29 .. 55) ผมได้อ่านข่าวเล็กๆเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้ชายที่มีต่อผู้หญิง ข้อความว่า

หนุ่มเมืองน้ำชา (เข้าใจว่าน่าจะหมายถึงประเทศจีน) ระบุข้อเสียของผู้หญิงสมัยนี้ว่า
1.  เจ้าอารมณ์  2. ไม่ชอบเล่นกีฬา  3. จู้จี้จุกจิกเรื่องความสะอาดมากเกินไป
และยังบอกต่อไปอีกว่า นิสัยที่สามีรู้สึกขัดใจภรรยามักจะเป็นเรื่อง
        1. การพูดบ่น วิจารณ์การขับรถของสามี  2. ติดดูละครน้ำเน่าอย่างงอมแงม  3. ใช้เวลาแต่งตัวนานเกินไป

             เมื่อคุณรู้ภาคทฤษฎีแล้ว ที่เหลือเป็นภาคปฏิบัติ ซึ่งต้องใช้ความอดทนและความ สม่ำเสมอ  จะทำได้ดีเพียงไรขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง โดยต้องเป็นคนช่างสังเกตและจดจำ หาข้อบกพร่องของตัวเองไม่น้อยกว่าของอีกฝ่าย 

ไม่มีความคิดเห็น: