วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

รักอย่างไรให้สมหวัง (2)


ปัจจัยแห่งความสำเร็จในชีวิตคู่  

                 โอวาทที่บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่มอบแก่คู่บ่าวสาวในคืนวันแต่งงาน มักเกี่ยวข้องกับเรื่องต่อไปนี้

1.  ความใส่ใจดูแล   
2.  ความซื่อสัตย์ และ ความไว้วางใจ
3. ความเข้าใจ 
4. การให้อภัย  
5.  การให้เกียรติ / ยกย่องนับถือ

1.  ความใส่ใจดูแล (Care)
         หมายถึง  ความใส่ใจต่อความรู้สึกของคนรัก  อยากดูแลปรนนิบัติ และทำให้เขาหรือเธอมีความสุข ตัวอย่างของการปฏิบัติ เช่น คอยถามทุกข์สุขและให้การดูแลในยามเจ็บป่วยหรือเวลามีปัญหาต่างๆ คอยพูดให้กำลังใจ ปลอบโยน และให้คำแนะนำ เวลาจะพูดหรือทำอะไร ควรมีความระมัดระวังไม่ให้กระทบต่อความรู้สึกของคนรัก การกระทำเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อรู้จักอุปนิสัยใจคอของคนรักอย่างถ่องแท้  เช่น รู้ว่าเขาเป็นคนขี้น้อยใจ ขี้งอน ก็ควรพยายามหาคำพูดที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการพูดจาถากถาง เสียดสี ตำหนิ จู้จี้ขี้บ่น ยั่วโทสะ เพราะความรู้สึกไม่ดีต่างๆเหล่านี้จะถูกเก็บไว้ในจิตใต้สำนึกเพื่อรอวันระเบิดออกมา

2.  ความซื่อสัตย์ และ ความไว้วางใจ (Honesty & Trust)
         คุณสมบัติข้อนี้ถือว่ามีความสำคัญที่สุดกว่าทุกๆข้อ  เพราะ เมื่อคนเรารักกันย่อมจะมีความรู้สึกเป็นของกันและกัน (sense of belonging) จนถึงขั้นเป็นเจ้าของ(sense of possession) คนรักจึงกลายเป็นสมบัติส่วนตัวของกันและกัน เกิดความรู้สึกหวง เหมือนเด็กที่หวงของเล่นหรือผู้ใหญ่ที่หวงทรัพย์สมบัติ  เวลามีใครมาแย่งชิงย่อมไม่พอใจ โกรธ พยายามปกป้องสมบัติของตนเองทุกวิถีทาง  แต่เมื่อของรักของหวงชิ้นนี้กลายเป็นสิ่งมีชีวิต มีความรู้สึก ตอบสนองทางอารมณ์ได้  มีความผูกพันลึกซึ้งต่อกัน และความต้องการที่จะมีอนาคตร่วมกันต่อไป  ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจมากกว่าสิ่งของ  ดังนั้น  ผลกระทบต่อจิตใจยามถูกแย่งชิงไปจึงรุนแรงมาก ความหวงแปรเปลี่ยนเป็นความหึงซึ่งเป็นส่วนผสมของอารมณ์ที่หลากหลาย  ผ่านการปรุงแต่งด้วยความคิดอันสลับซับซ้อน หลายรายจบลงแบบ พิศวาสฆาตกรรมดังที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่เนืองๆ             
                  
                ถึงแม้จะรู้ถึงผลกระทบที่รุนแรงเช่นนี้ แต่คนส่วนหนึ่งก็ยังอยากเล่นกับไฟ โดยมีปัจจัยกระตุ้นต่างกันไป เช่น ความรู้สึกท้าทาย  ความใคร่ ตัณหาราคะ  ความเหงา  ความเบื่อหน่ายคนรัก  ความรู้สึกไร้ค่าในเวลาที่อยู่กับคนหนึ่งแต่กลับรู้สึกมีคุณค่าเวลาอยู่กับอีกคนหนึ่ง  ความมึนเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์และยาเสพติด ฯลฯ  แต่ถึงแม้จะมีเหตุผลหรือข้ออ้างต่างๆนาๆ ก็ยังมีคำถามอยู่ดีว่า  ทำไมคนอื่นที่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันจึงไม่ทำเช่นนั้น  คำตอบน่าจะเป็นเรื่องของ ระดับความรู้สึกผิดชอบชั่วดี คุณธรรม ศีลธรรมประจำใจ  อันเป็นผลมาจากการอบรมเลี้ยงดู และประสบการณ์ชีวิตในวัยเยาว์  ซึ่งเป็นตัวสร้างความเชื่อ ทัศนคติ และความคาดหวังที่ต่างกัน 
    
                คู่รักทั้งสองนอกจากต้องมีความซื่อสัตย์ต่อกันแล้ว  สิ่งที่ต้องมีควบคู่กันไปก็คือ ความไว้วางใจต่อกัน  หากฝ่ายหนึ่งเอาแต่ระแวงสงสัยว่าอีกฝ่ายจะนอกใจ มีกิ๊ก มีบ้านเล็กบ้านน้อย  คอยหาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งอยู่เป็นประจำ ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาต่อไปได้เช่นกัน สิ่งถูกต้องคือ ฝ่ายที่ถูกระแวงสงสัย ต้องไม่มีเรื่องราวเช่นนั้นจริงๆด้วย 
                 
                เมื่อพูดถึงพฤติกรรมปันใจให้คนอื่น ยังมีประเด็นให้ขบคิดกันในเรื่องรูปแบบของการติดต่อสื่อสารที่หมิ่นเหม่ในลักษณะของการปันใจ นอกใจกัน เช่น การพูดคุยกันผ่านทางระบบ อินเตอร์เนต ทุกรูปแบบ  พฤติกรรมเหล่านี้นับวันจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้สร้างปัญหาให้กับครอบครัวจำนวนหนึ่งเข้าแล้ว กล่าวคือ  ภรรยาเกิดความเครียดจนนอนไม่หลับ เพราะไปพบข้อความ SMS ทำนองเกี้ยวพาราสีบนมือถือของสามี ฝ่ายสามีก็กลัดกลุ้มไม่เป็นอันทำงานหลังจากพบข้อความในลักษณะเดียวกันบน facebook ของภรรยา ไม่ว่าความจริงจะเป็นอย่างไร นี่คือผลกระทบในเชิงลบจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีระบบสื่อสารปัจจุบัน แน่นอนว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะยังคงเกิดขึ้นซ้ำๆซากๆต่อไป ตราบใดที่คนส่วนหนึ่งใช้เทคโนโลยีอย่างไม่เหมาะสมในการแสวงหาความสุข

3.  ความเข้าใจ (Understanding)
         คำนี้มีความหมายได้ทั้งกว้างและลึกเมื่อนำมาใช้ในเรื่องความรัก โดยต้องเริ่มต้นจากความเข้าใจที่ว่า คนเรามีความแตกต่างกัน เสียก่อน  เราเป็นแบบหนึ่ง เขาก็อีกแบบแหนึ่ง  บางอย่างอาจเหมือนกัน  ในขณะที่อีกหลายอย่างต่างกัน  เข้าใจอย่างเดียวไม่พอต้องยอมรับให้ได้ด้วย  บางอย่างที่ยอมรับไม่ได้จริงๆก็ควรพูดคุยกันเสียแต่เนิ่นๆ โดยใช้ความจริงใจต่อกัน หากเริ่มต้นด้วยการโกหกหลอกลวงกัน เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งต้องมีปัญหากันอย่างแน่นอน 
               เพื่อให้มีความครอบคลุม ง่ายต่อการจดจำ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ จึงขอแบ่งหัวข้อของความแตกต่างออกเป็น 2 เรื่อง คือ
         
1. บุคลิกภาพ มีองค์ประกอบ 3 อย่างคือ  ความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม  ความคิด หมายถึง วิธีคิด  การใช้เหตุผล  ความเชื่อมโยง  การวางแผน  ความรับผิดชอบ ความเชื่อ  ทัศนคติ  ความใฝ่ฝัน  ความทะเยอทะยาน ความเอาจริงเอาจัง  การตัดสินใจ  และ ทุกๆอย่างที่เกี่ยวข้องกับความคิด  อารมณ์ ให้ดูที่ลักษณะ เช่น เป็นคนใจเย็นหรือใจร้อน  ขี้หงุดหงิดหรืออารมณ์ดี  และความสามารถในการควบคุม และสุดท้ายคือ พฤติกรรม มีความสุภาพเรียบร้อย ยินดีรับฟัง หรือเกรี้ยวกราด ก้าวร้าวรุนแรง   
        
2. รสนิยม หมายถึง ความสนใจ ความชอบในเรื่องต่างๆทั้งสิ่งของและวิธีแสวงหาความสุข เช่น รสนิยมเรื่อง อาหาร การแต่งกาย ดนตรี ภาพยนตร์ กีฬา การเที่ยวเตร่ งานอดิเรกอื่นๆ รวมถึงเรื่องเพศด้วย

ไม่มีความคิดเห็น: