วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

กิ๊ก (1)


3.  กิ๊ก
            แม้ว่าคำๆนี้จะเพิ่งเกิดขึ้นมาไม่นาน แต่มีการนำไปใช้กันอย่างกว้างขวางจนถึงปัจจุบัน ผมไม่แน่ใจว่าได้รับการบรรจุไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ฉบับล่าสุดหรือยัง เท่าที่ตรวจสอบในฉบับ พ.ศ. ๒๕๔๒ นั้้น ยังไม่มีการบัญญัติในความหมายตามที่เข้าใจกัน 

            สำหรับความหมายที่รับรู้กันโดยทั่วไปนั้น ยังแตกต่างกันอยู่พอควร  จากการสอบถามผู้คนจำนวนหนึ่งพบว่า ความหมายของกิ๊กที่เข้าใจตรงกันคือ คนที่เป็นมากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟน ที่ต่างกันคือ กลุ่มหนึ่งบอกว่า ยังไม่เพศสัมพันธ์กัน อีกกลุ่มหนึ่งก็ว่า ต้องมีเพศสัมพันธ์กันด้วย  ส่วนตัวผมเองคิดว่า ถูกต้องด้วยกันทั้งสองกลุ่ม เพียงแต่มองกันคนละช่วงเวลา เพราะสุดท้ายแล้วก็มักจบลงด้วยการมีเพศสัมพันธ์กันหากปล่อยให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไป  นี่เป็นเพียงสมมุติฐานเท่านั้นนะครับ โดยอาศัยเหตุผลที่ว่า ความรู้สึกของคนที่เป็นกิ๊กกันนั้น พอจะเทียบเคียงได้กับความรักใคร่ระหว่างหนุ่มสาวที่เริ่มจาก ความหลงใหลเสน่หา (Passion) ที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหรือทั้งสองฝ่ายมีให้ต่อกัน ตามมาด้วยความรู้สึกผูกพันกันมากขึ้น และพัฒนาไปจนถึงจุดสุกงอมดังที่ได้กล่าวไว้แล้วในบท ทฤษฎีสามเหลี่ยมแห่งรัก  เท็จจริงอย่างไรคงต้องรอให้นักวิชาการทำการศึกษากันต่อไป

            หากพิจารณาในแง่พฤติกรรมทำนองนี้ในอดีต คำว่าชู้ จะตรงกับความหมายในกรณีที่สองคือ มีเพศสัมพันธ์กันด้วย สำหรับกรณีแรกน่าจะพอใช้คำว่า ชู้ทางใจ ได้ ทั้งนี้ ผู้มีพฤติกรรมดังกล่าวคงต้องถามใจตัวเองว่า คิดอะไรอยู่ ทุกครั้งที่อยู่กับเพื่อนที่รู้ใจคนนั้น  คนที่เริ่มใช้คำว่า กิ๊ก เป็นคนแรกนั้นเขาหมายถึงความสัมพันธ์แบบไหนกันแน่  แล้วคนที่นำไปใช้ต่อๆมาคิดเหมือนกับคนแรกหรือไม่  เมื่อถามคนกลุ่มที่สองว่า กิ๊ก กับ ชู้ ต่างกันอย่างไร คำตอบที่ได้รับจากการสอบถามในคราวเดียวกันก็คือ คำว่า ชู้ มันแรงไป (จนกระทบต่อมศีลธรรมทั้งต่อคนมีชู้และคนเป็นชู้ รู้สึกรับไม่ได้ แสลงใจเกินไป จึงเกิดความคิดที่จะหาคำใหม่ที่ฟังนุ่มหูกว่า และไม่รู้สึกถูกประณามหยามเหยียดจากสังคม อีกทั้งยังฟังดูเป็นเรื่องโก้เก๋ จนบางรายอดที่จะนำความลับมาเล่าสู่เพื่อนสนิทฟังไม่ได้)   

               ส่วนสาเหตุที่ผมจัดให้มันเป็นหนึ่งใน ด้านมืดของความรัก ก็เพราะ ความหมายที่แท้จริง ของมันยังคงดำรงอยู่  และสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ มันเริ่มต้นจากความรู้สึกพึงพอใจ ถูกตาต้องใจ จนกลายมาเป็นเพื่อนใจ ก่อให้เกิด ความผูกพันทางอารมณ์ (Emotional attachment) ระหว่างคนสองคนที่ต่างก็…..มีคนรักแล้ว
                                               
                                              ผลกระทบที่เกิดขึ้น จึงไม่ต่างกัน

หากคุณกำลังมีพฤติกรรมและอาการต่างๆต่อไปนี้อยู่ในขณะนี้
·    แอบคบหาใครสักคนหรือมากกว่าอย่างลับๆ
·    ช่วงแรกๆต่างฝ่ายต่างคิดถึงกันเกือบตลอดเวลาเหมือนคนที่ตกอยู่ในความรัก คือมีอาการเหม่อลอย  ฝันกลาง วัน ไม่ค่อยมีสมาธิในการทำงาน ประสิทธิภาพของงานลดลง ยอมเลื่อนนัดหมายสำคัญๆ
·    ไม่สนใจครอบครัวเหมือนเดิม
·     รู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจตัวคุณได้ดีไปกว่าคนพิเศษคนนี้
·     เฝ้าติดตามพฤติกรรมของเขาหรือเธออยู่ตลอดเวลาว่า จะมีใครมาคบหาอีกหรือไม่
·     จิตใจจดจ่ออยู่กับการวางแผนที่จะได้พบกับเขาหรือเธออย่างต่อเนื่อง
·    ไม่ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากความลับถูกเปิดเผย
·    เวลาถูกเพื่อนฝูงหรือคนรักถาม ก็มักปฏิเสธอยู่เสมอว่า ไม่มีอะไร เป็นแค่เพื่อนกัน พร้อมทั้งเดินหน้าคบหา กันแบบลับๆต่อไป
·    เก็บคนๆนี้ไว้เป็นความลับขั้นสุดยอด ไม่ยอมเปิดเผยตัวตนให้เพื่อนๆ หรือคนรักของตนได้รู้จักในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง
                   
                        พึงตระหนักว่า คุณกำลังมี   กิ๊ก ในระยะ  “ ชู้ทางใจ ”  เข้าแล้ว

ทำไมคนเราจึงมี  “กิ๊ก
            จากการศึกษาวิจัยของนักวิชาการในต่างประเทศ (ด้วยการสอบถามคนมี กิ๊ก จำนวนหนึ่ง) สรุปสาเหตุสำคัญๆได้ ดังนี้
                   1.   ความไม่สมหวัง ในคู่รักของตัวเอง เพราะ
   -   คู่รักไม่ใส่ใจดูแล พูดจาหยาบคาย ไม่ให้เกียรติ
   -   เย็นชาต่อกัน ไม่สนใจไถ่ถามทุกข์สุข
   -   มีเพศสัมพันธ์กันนานๆครั้งหรือไม่มีเลยมาระยะหนึ่ง
   -   คู่รักไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีภาวะผู้นำ ไม่มีอะไรน่าภาคภูมิใจ
   -   คนพิเศษคนนั้น มีอะไรบางอย่างมาเติมเต็มให้คุณ

                  2.    ความเหงา  ซึ่งเกิดได้ในหลายสถานการณ์
   -   คู่รักอยู่ห่างไกลกัน เช่น ทำงานอยู่ต่างเมืองหรือต่างประเทศ  มีใครบางคนเดินเข้ามาในชีวิตช่วงนั้น หาความรักไม่เข้มแข็งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็มีโอกาสที่ความใกล้ชิดกับคนใหม่จะทำให้เคลิบเคลิ้มหลงใหล เกิดความเห็นอกเห็นใจ และกลายเป็นความรักในที่สุด

                   3.   ความอ่อนไหวทางอารมณ์   เนื่องจากความอ่อนต่อโลก  อ่อนไหวต่อคำพูดเยินยอ ความเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นง่ายบวกความมีเสน่ห์ทำให้เป็นที่น่าสนใจต่อเพศตรงข้าม (โดยเฉพาะพวกนักรักที่หลงตัวเอง (Narcissists) หรือพวกเจ้าชู้)  และได้รับการเอาใจใส่ดูแลในแบบที่ไม่ค่อยได้รับจากคนรักมาก่อน รู้สึกตื่นเต้นแปลกใหม่ เกิดความต้องการที่จะรักษาความรู้สึกนั้นไว้ ทำให้อยากคบหากับคนๆนั้นต่อไปในแบบลับๆเพื่อชดเชยความรู้สึกที่หายไป
             
                  สำหรับรายที่ไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกรักในแบบหวานซึ้ง (Romantic experience) มาก่อน เพราะชีวิตคู่มาจากการคลุมถุงชน ก็อาจเคลิบเคลิ้มไปกับความรู้สึกที่แปลกใหม่ได้หากพบกันคนที่มีทักษะการใช้คำพูดและการกระทำที่ทำให้เพศตรงข้ามหลงรัก
                  ผมอยากจะเพิ่มให้อีกหนึ่งข้อ คือ ระดับคุณธรรม ที่แตกต่างกันของแต่ละคน หากไม่พูดถึงเรื่องนี้กันให้ชัดเจน สาเหตุทั้งสามข้อข้างต้นจะกลายเป็นคำแก้ตัวสำหรับคนที่อยากมีกิ๊กอยู่แล้ว และจะทำให้สังคมไม่มีทางออกสำหรับเรื่องนี้
                 ไม่ว่าการมี กิ๊ก จะเกิดขึ้นจากสาเหตุใดก็ตาม  ความสัมพันธ์เช่นนี้มักดำเนินไปอย่างรวดเร็วจนเลยความเป็นเพื่อน กว่าจะรู้ตัวก็เป็นความรักในแบบคู่รักไปแล้ว  และลงเอยด้วยการมีเพศสัมพันธ์กัน (Sex affair) ดังเช่นในภาพยนตร์เรื่อง Torn between two lovers ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับสาวใหญ่มีสามีแล้ว เกิดถูกชะตากับหนุ่มวัยเดียวกันในระหว่างการเดินทาง  จัดเป็นภาพยนตร์คุณภาพด้านเนื้อหาอีกเรื่องหนึ่งที่ให้อุทธาหรณ์สอนใจเราไม่ให้ตกอยู่ในความประมาทต่อเรื่องรักๆใคร่ๆ  รายละเอียดเป็นอย่างไรลองหาชมกันนะครับ มีเพลงเพราะๆความหมายสะท้านใจชื่อเดียวกับภาพยนตร์ให้ฟังเตือนใจยามที่เราพบคนถูกใจ…………..แต่มาผิดเวลา

ข้อคิด   
                 ชีวิตคนเราทุกวันนี้อาจจะไม่มีโอกาสได้เหงาจับจิตเหมือนคนยุคก่อนอีกแล้ว เพราะคุณสามารถสื่อสารกับใครได้ตลอดเวลา แม้กับคนที่ไม่รู้จัก  คุณสามารถติดต่อกับ กิ๊ก จากเตียงนอนโดยที่คนรักของคุณกำลังกรนกระหึ่มอยู่ข้างๆ  คนส่วนหนึ่งสามารถพบรักหรือคนที่รู้ใจผ่านอุปกรณ์สื่อสารทันสมัยที่หลากหลาย  แต่จะมีใครทราบจำนวนผู้ที่ผิดหวังหรือถูกหลองลวงโดยพวก 18 มงกุฎว่ามีมากน้อยเพียงใด  หลายคนอาจหมดอนาคตหรือต้องจบชีวิตลงอย่างน่าเสียดาย โดยไม่ปรากฏเป็นข่าว
                 ดังนั้น ชีวิตที่เรียบง่าย ถึงแม้จะเหงาหรือน่าเบื่อสักหน่อย แต่มีความปลอดภัย ก็ยังดีกว่าการคบหาอยู่กับคนแปลกหน้าที่กลายมาเป็น กิ๊กซึ่งที่สุดแล้วจะสร้างปัญหาให้คุณ………………….อย่างแน่นอน

เกร็ดชีวิต
               ชีวิตในโลกทุนนิยมเช่นทุกวันนี้ บีบให้เราทุกคนต้องต่อสู้ดิ้นรนเอาชีวิตรอดด้วยการทำงานหรือทำอะไรก็ได้ เพียงเพื่อให้ได้เงินมายังชีพ  แต่ไม่ว่าจะจนหรือรวยแค่ไหน สิ่งที่ต้องการเหมือนกันคือ คนรู้ใจสักคน ความร้อนรุ่มในหัวใจเพิ่มขึ้นทุกขณะตราบใดที่คุณยังหาคนถูกใจไม่ได้  เมื่อถูกความเหงารุมเร้าอยู่ทุกวัน หัวใจที่ยังไม่พร้อมจึงพยายามหาตัวแทนแห่งความรักมาช่วยคลายเหงาชั่วครู่ยาม เหตุนี้เองจึงเป็นที่มาของธุรกิจคลายเหงามากมาย แตกต่างกันไปตามค่านิยม ความเชื่อ และกฎหมายบ้านเมือง  ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเร็วๆนี้ …………ธุรกิจเพื่อนนอน

              “ ฮือฮาคาเฟญี่ปุ่น กอดสาวแก้เหงา เป็นหัวข้อข่าวจากหนังสือพิมพ์ ข่าวสด หน้า 10 ฉบับประจำวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.. 2555  อ้างสำนักข่าว เอบีซีนิวส์ เมื่อวันที่ 27 .. ว่า ได้เกิดธุรกิจให้บริการแหวกแนวขึ้นที่ร้าน โซอิเนยะ อยู่ที่ย่าน อากิฮาบาระ กรุงโตเกียว ผู้ให้บริการคือ สาวน้อยอายุระหว่าง 17-25 ปี  ซึ่งลูกค้าสามารถกอดหรือหนุนตักพวกเธอได้  แต่ไม่มีขายบริการทางเพศ โดยคิดค่าห้องชั่วโมงละ 3,700 บาท แพ็กเกจมาตรฐานคือ กอดกันบนฟูกนอน ขั้นต่ำ 20 นาที แต่ไม่เกิน 10 ชั่วโมง ราคาแพงสุดอยู่ที่ 19,500 บาท มีบริการปลีกย่อยให้เลือกอีกหลายอย่าง เช่น นอนหนุนตัก, นอนหนุนแขน ให้ลูบหัวหรือลูบหลัง ราคาอย่างละ 400 บาท ต่อ 3 นาที, จับมือ 400 บาท ต่อ 10 นาที, จ้องตา 400 บาท ต่อ 1 นาที, อยากให้สาวสวมใส่ชุดนอนหรือชุดคอสเพลย์ เพิ่มอีก 400 บาท หากยังไม่หนำใจลูกค้าประเภท มาโซคิสติก ” (Masochistics - พวกชอบให้คนรักทำร้ายร่างกายจึงจะเกิดอารมณ์ทางเพศ) ก็สามารถขอรับบริการตบหน้าได้ในราคา 400 บาท ต่อครั้ง ผมขอนำภาพจากหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวมาให้ชมกันเพื่อยืนยันว่า เรื่องนี้มีจริง   

                

เพี้ยนได้ใจจริงๆนะครับ  แต่ก็ คิขุอาโนเนะ สไตล์ญี่ปุ่นเขา ไม่ต้องไปหากิ๊กให้เสียเวลา และอาจจะเสียเงินน้อยกว่า  ผมไม่ได้หนับหนุนนะครับ งานนี้ตัวใครก็ตัวใครดีกว่าไม่ว่ากัน

หัวข้อต่อไปขอเสนอเรื่องเบาสมองสักหน่อย เป็นแบบทดสอบเพื่อค้นหาบุคลิกภาพของตัวคุณเอง รวมทั้งคนที่คุณกำลังแอบรักอยู่ในเวลานี้ จะแม่นยำเพียงไรก็สุดแต่จะพิจารณากันเองครับ