วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

ความหมายของสามเหลี่ยมแห่งรัก (2)


ความสอดคล้องของสามเหลี่ยมแห่งรักระหว่างคู่รัก
                   คู่รักแต่ละคู่จะมีรูปร่างของสามเหลี่ยมแห่งรักแตกต่างกันอย่างไร ขนาดใหญ่หรือเล็ก ยอดเหยียดตรง เอียงไปทางซ้ายหรือขวานั้น ขึ้นอยู่กับบุคลิกภาพซึ่งหมายถึง ค่านิยม ความเชื่อ ทัศนคติ รวมไปถึง ประสบการณ์ความรักในอดีต สามเหลี่ยมแห่งรักระหว่างคนทั้งสองเมื่อนำมาทาบซ้อนกัน จะมีความสอดคล้องใกล้เคียงกันหรือเหลื่อมกันมากน้อยอย่างไร จะสามารถบ่งบอกถึงอนาคตแห่งรักของคู่รักนั้นๆได้
                    ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของสามเหลี่ยมแห่งรักแบบต่างๆของคู่รักที่นำมาทาบซ้อนกัน เพื่อให้ท่านได้ทดสอบความรู้ความเข้าใจ สำหรับท่านที่ไม่สมหวังในรักมาก่อน เมื่อได้ทบทวนถึงคุณลักษณะต่างๆขององค์ประกอบหลักเหล่านี้ทั้งของท่านเองและของอดีตคนรัก  ก็อาจจะทำให้ท่านเข้าใจถึงเหตุแห่งความล้มเหลวได้ง่ายขึ้น  ส่วนท่านที่กำลังมีความรักอยู่พอดี ไม่ว่าความรักของท่านกำลังเป็นไปด้วยดี หรือกำลังเริ่มมีปัญหาขึ้นมาบ้างแล้ว  ความรู้ในบทนี้คงพอช่วยให้ท่านวิเคราะห์ เข้าใจ และปรับเปลี่ยนบางสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้รักของท่านทั้งสองยืนยาวต่อไปได้ หรือหากได้ข้อสรุปตรงกันว่า ไปด้วยกันไม่ได้แน่นอนแล้ว ก็จะเกิดการยอมรับด้วยกันทั้งสองฝ่ายด้วยเหตุผล ไม่ใช่ด้วยอารมณ์ และสามารถจากกันด้วยดี ไม่ถึงกับต้องทำร้ายร่างกายหรือฆ่าแกงกันเหมือนคนอื่นๆเขา

                คู่รักที่มีสามเหลี่ยมแห่งรักใกล้เคียงกันทั้งขนาดและรูปร่าง จะมีความสุข สมหวังในชีวิตคู่ได้มากกว่าคู่รักที่มีรูปสามเหลี่ยมแห่งรักต่างกัน แต่ควรระลึกไว้เสมอว่า ความรักเป็นสิ่งเปราะบาง ต้องการการดูแลเอาใจใส่และบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเพราะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตามเหตุปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้อง
                ประเด็นความสอดคล้องของรูปสามเหลี่ยมแห่งรักนี้ อาจมีความหลากหลายได้มากกว่านี้อีกมาก เพราะความรักเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดและความสลับซับซ้อนมากที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิตของคนเรา  ผู้อ่านสามารถใช้เรื่องราวของตนเองเป็นแบบฝึกหัดเพื่อทดสอบองค์ความรู้นี้ได้โดยปลอดภัย เพราะไม่มีใครจะมารู้ความลับของท่านได้ ผลดีก็คือ ท่านสามารถพยากรณ์อนาคตของความรักให้กับตัวเองได้ จะแม่นยำเพียงใดขึ้นอยู่กับความถูกต้องของข้อมูล  หากผลออกมาค่อนข้างเป็นลบ แต่ท่านยังมีความมุ่งมั่นต่อคนรัก ก็จำเป็นที่จะต้องมีการยกเครื่องความคิด ทัศนคติ รวมทั้งพฤติกรรมของท่านที่อีกฝ่ายไม่พึงปรารถนา หาไม่แล้วโอกาสของท่านก็อาจหลุดลอยไป ทุกท่านต้องตระหนักอยู่เสมอว่า ความรัก เป็นสิ่งที่บังคับกันไม่ได้ แต่สามารถสร้างขึ้นมาได้ โดยต้องใช้เวลาและความอดทนอย่างมาก  ประการสำคัญที่สุดก็คือ องค์ความรู้ที่ถูกต้องและมากพอ รวมทั้งต้องมีการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอกับคนที่เรารักด้วยความจริงใจ โดยต่างฝ่ายต่างต้องมีความจริงใจต่อกัน หาไม่แล้วก็จะไม่ประสบความสำเร็จเช่นกัน เพราะจะเกิดสถานการณ์ที่ว่า อีกฝ่ายหนึ่งหลอกลวงฝ่ายที่มีความจริงใจ จนถึงจุดที่ฝ่ายจริงใจหมดความอดทนเพราะสูญเสียทรัพย์สิน กำลังใจและเวลาไปมากมาย ก็จะเลิกราไปในที่สุด
              
                 อีกประเด็นหนึ่งที่พบบ่อยๆก็คือ ความคิดเดิมๆที่ว่า ต้องให้ได้ตัวมาก่อนแล้วก็จะได้หัวใจภายหลังนั้น มักจะกลายเป็นต้นเหตุของความสูญเสีย และทำให้เกิดโศกนาฏกรรมแห่งรักในสังคมไทยมาทุกยุคสมัย และจะยังคงเกิดขึ้นซ้ำซากเช่นนี้ต่อไปตราบเท่าที่คนส่วนใหญ่ในสังคมไทยยังมีความรู้และทัศนคติผิดๆเกี่ยวกับความรัก ด้วยพฤติกรรม 2 อย่าง คือ
                             1.  รักตัวเองมากกว่าคนรัก
                             2.  รักคนรักมากกว่าตัวเอง

จะแก้ไขอย่างไรหากสามเหลี่ยมแห่งรักแตกต่างกันมาก       
              หากเรายอมรับว่า ปัญหาทุกอย่างเกิดแต่เหตุ ความรักที่เกิดความไม่ลงรอยกันย่อมต้องมีสาเหตุ ความรักเกี่ยวข้องกับตัวแปรมากมาย ความยากง่ายของการแก้ไขจึงแตกต่างกันไปในแต่ละคู่ เหตุผลหลักที่ถูกนำมาอ้างกันบ่อยที่สุดเวลาคู่รักต้องเลิกรากันก็คือ เราเข้ากันไม่ได้ ซึ่งหมายถึงอุปนิสัยที่ไปด้วยกันไม่ได้มากกว่าเรื่องอื่นๆ จึงน่าสงสัยว่า เมื่อเริ่มต้นรักกันใหม่ๆทำไมจึงเข้ากันได้ เป็นไปได้หรือไม่ว่าเกิดจากสาเหตุต่อไปนี้
                        1.  คนส่วนใหญ่เริ่มต้นรักคนอื่นจากความรักตัวเองก่อน
                        2.  รักเพราะเธอสวย รักเพราะเขารวย ซึ่งเป็นเรื่องของผลประโยชน์ คือ ตอบสนองความต้องการของตนเองเป็นหลัก จึงเกิดการสร้างภาพลวงตาขึ้นมาให้อีกฝ่ายหนึ่งเข้าใจผิด                                               
                
              ดังนั้น เมื่อเริ่มต้นจากทัศนคติผิดๆ ย่อมเสี่ยงต่อความล้มเหลว ไม่ช้าก็เร็ว
                
             เช่นนี้แล้ว จะแก้ไขกันอย่างไร
             ก็ต้องเริ่มจากการมีความรู้และทัศนคติที่ถูกต้องในเรื่องความรัก
             เราทุกคนต้องรู้จักความรักอย่างถ่องแท้ เริ่มตั้งแต่ความหมายที่ถูกต้อง องค์ประกอบหลักๆ และธรรมชาติของความรักว่า มีการเปลี่ยนแปลงได้ตามเหตุปัจจัย ตลอดจนวิธีการถนอมเลี้ยงดูรักนั้นอย่างถูกวิธี
           
              ถึงแม้จะไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายที่จะทำ  แต่ก็ไม่ยากหากคิดจะทำ

             แล้วจะทำอย่างไรเพื่อป้องกัน หรือแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นที่มาของหัวข้อ Blog นี้ว่า รักอย่างไรให้สมหวัง 

คำตอบจึงอยู่ที่การผสมผสานองค์ความรู้ต่างๆ ตั้งแต่บทแรกจนถึงบทสุดท้าย ซึ่งในบทท้ายๆของ Blog นี้จะพูดถึง  หัวข้อนี้เป็นการเฉพาะอีกครั้งหนึ่ง

ครั้งต่อไป ผมจะขอนำเสนอท่านในหัวข้อ ความรัก 9 ขั้นตอน ซึ่งจะทำให้ท่านเข้าใจ อารมณ์ความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไปในตัวท่านเองและคนรักของท่านในแต่ละระยะของความรักได้มากขึ้น จะได้มี สติ ตั้งรับกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา                                      
                                                

ไม่มีความคิดเห็น: