วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555

เสน่ห์ทางเพศและความมีเสน่ห์ (2)


ความมีเสน่ห์

คุณคงเคยพบเห็นคนที่ทั้งรวย สวย หล่อ เก่ง แต่คบกับใครได้ไม่นานก็เลิกรากันไป ครั้นพบคนถูกใจแต่งงานอยู่กินกันได้สักพักก็ต้องหย่าร้างกัน ในขณะที่อีกหลายๆคู่ หน้าตาพอไปวัดไปวาได้ หุ่นไม่ทรมานใจใคร กลับใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุขจนแก่เฒ่า

คำอธิบายที่ได้ยินกันบ่อยๆได้แก่ ความเข้าใจ ความเข้ากันได้ ที่ฟังทันสมัยหน่อยคือ เคมีตรงกัน (จะพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งในบท ความเข้ากันได้”) มีอีกคำหนึ่งที่นึกถึงกันน้อยกว่า แต่มีพลังดึงดูดมหาศาลจน เป็นปัจจัยเร่งให้เกิดการตัดสินใจได้เร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว  คำๆนั้นก็คือ ความมีเสน่ห์นั่นเอง ซึ่งผมเชื่อว่า สำหรับท่านที่เคยมีประสบการณ์รักกับคนประเภท สวยแต่รูป จูบไม่หอมมาก่อนแต่เปลี่ยนใจไปรักคนที่สวยน้อยกว่า หรืออาจถึงขั้นขี้เหล่เอาเลย คงจะซึ้งกับความหมายของคำนี้เป็นอย่างดี ที่กล่าวเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่า คนสวย คนหล่อ จะไร้เสน่ห์ไปเสียทุกคน แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นเช่นนั้น เรื่องนี้สามารถอธิบายด้วยหลักวิชาจิตวิทยาพัฒนาการแห่งบุคลิกภาพ ซึ่งจะได้กล่าวถึงอีกครั้งในบทต่อๆไป ช่วงนี้เรามาดูความหมายของคำๆนี้อย่างเป็นทางการกันสักนิดก่อนครับ

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.. 2525 ให้ความหมายของคำว่า เสน่ห์ หมายถึง ลักษณะที่ชวนให้รักส่วนคำที่มีความหมายตรงกันในภาษาอังกฤษคือ Charm นั้น ใน Oxford Dictionary ให้ความหมายไว้ว่า the power or quality of delighting, attracting or fascinating othersแปลว่า ความสามารถ หรือ คุณภาพของบุคคลที่จะทำให้ผู้อื่นรู้สึกพึงพอใจ สุขใจ ถูกดึงดูดใจ หรือตรึงใจ

จากข้อความข้างต้น จะเห็นว่า เป็นเรื่องยากทีเดียวที่จะให้ความหมายของคำๆนี้ได้อย่างเหมาะสม หากจะให้ครอบคลุมคุณสมบัติทั้งหมดจริงๆคงต้องเขียนกันยืดยาว ในที่นี้ผมขอยกตัวอย่างลักษณะต่างๆที่คิดว่าเป็นเสน่ห์ และทำให้คนโดยทั่วไปเกิดความรู้สึกชอบพอจนหลงรักได้ เช่น
  •         กิริยามารยาทดี รู้จักกาลเทศะ
  •         พูดจาไพเราะ อ่อนหวาน น้ำเสียงน่าฟัง
  •         มีอารมณ์ขัน ยิ้มง่าย หัวเราะเก่ง
  •         อารมณ์ดี มีไหวพริบ คุยสนุก มีชีวิตชีวา
  •         มีน้ำใจอย่างจริงใจ ชอบช่วยเหลือ ไม่เอาเปรียบ ไม่เอาแต่ใจ
  •         ไม่หงุดหงิดเจ้าอารมณ์ ให้อภัยคนได้ง่าย ไม่ผูกพยาบาท
ะเห็นได้ว่า คุณสมบัติต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องการมีต้องการได้ น่าเสียดายที่ว่า ทั้งๆที่รู้แต่กลับทำกันไม่ได้ มีสิ่งหนึ่งที่มาขวางกั้นให้เราเป็นเช่นนั้นไม่ได้ สิ่งนั้นก็คือ
                                                                
                                                                         ความเห็นแก่ตัว

เพราะคนส่วนมากมักยึดเอาความต้องการของตัวเป็นใหญ่ ในขณะที่เรามองคนอื่นว่าเห็นแก่ตัว เราจะมองตัวเองว่าไม่เห็นแก่ตัว หรือถึงมีก็น้อยกว่าเขา โดยลืมไปว่า ตัวเราเองกำลังถูกอีกคนหนึ่งมองอยู่และได้ตัดสินไปแล้วว่า เราเป็นคนเห็นแก่ตัวกว่าพวกเขา

มนุษย์เราจึงวนเวียนอยู่กับความคิดว่า ใครเห็นแก่ตัวมากกว่าใคร เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเองที่จะเอาเปรียบคนอื่น ผลก็คือ มนุษย์เกิดความไม่ไว้ใจกัน หวาดระแวงกัน กลัวว่าตนเองจะถูกเอาเปรียบจึงเอาเปรียบคนอื่นอยู่ตลอดเวลาโดยไม่รู้ตัว  ความวุ่นวายต่างๆนานาจึงเกิดขึ้นทุกแห่งหนและทุกเวลา
                                                      
                                                             ไม่เว้นแม้กระทั่งเวลามีความรัก

แล้วความเห็นแก่ตัวเกี่ยวอะไรกับความมีเสน่ห์?
คนมีเสน่ห์ไม่เห็นแก่ตัวกระนั้นหรือ?

ผมไม่สามารถตอบในลักษณะ yes หรือ no สำหรับคำถามทำนองนี้ เพราะเหตุว่า มันเป็นเรื่องของความรู้สึกที่ไม่สามารถวัดอย่างเป็นรูปธรรมได้ ทำนองเดียวกับเรื่อง ความยุติธรรม ความดีความชั่ว ความรวยความจน ฯลฯ เพราะอยู่ที่เราจะเปรียบเทียบกับใคร หรือ เราเป็นฝ่ายได้-เสีย

ผมเพียงแต่อยากให้เราทุกคนหันมาพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจัง และยอมรับความจริงที่ว่า เราทุกคนต่างก็มีความเห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น จะมากหรือน้อยกว่ากัน ถึงแม้จะไม่มีเครื่องมือวัด แต่ให้ดูจากผลกระทบต่อคนอื่น หากเป็นเรื่องของความรัก ก็ต้องถามตัวเองว่า สิ่งที่เราต้องการจากคนรักกับสิ่งที่เราจะมอบให้คนรักนั้น ต่างกันมากน้อยเพียงไร หากสิ่งที่เราต้องการจากเขามากกว่าที่เราจะให้เขา  ย่อมมีความชัดเจนอยู่ในตัว  ถ้าทั้งสองฝ่ายต่างคิดเหมือนกัน แทนที่จะเป็นหุ้นส่วนชีวิตของกันและกัน แต่กลับพยายามหากำไรจากอีกฝ่าย สุดท้ายธุรกิจแห่งชีวิตรักก็จะประสบภาวะขาดทุนทั้งคู่

สิ่งที่ผมอยากเสนอให้ท่านช่วยกันพิจารณาก็คือ ความมีเสน่ห์จะเกิดขึ้นไม่ได้หากคนๆนั้นมีความเห็นแก่ตัว (ในที่นี้หมายความเพียงว่า เป็นความต้องการได้มากกว่าให้) เพราะความเห็นแก่ตัวนี้เองที่เป็นอุปสรรคขัดขวางพัฒนาการของความรักไม่ให้เติบโตต่อไป  ลักษณะต่างๆที่กล่าวมาข้างต้นจะกลายเป็นของปลอมทันที และจะถูกค้นพบในที่สุด

นอกเหนือจากความเห็นแก่ตัวแต่น้อยๆแล้ว ก็ต้องมี ความจริงใจ เพิ่มขึ้นอีกอย่างหนึ่งด้วย เพราะสองสิ่งนี้จะทำให้เกิด ความมีน้ำใจ ขึ้นได้ ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่มีพลังดึงดูดเอามากๆ

คุณลักษณะต่างๆข้างต้นนั้น มาจากการประมวลความรู้สึกและความต้องการของผู้ที่ผิดหวังเรื่องความรักและมาระบายความในใจให้ผมฟัง จึงอยากนำมาสะท้อนให้ผู้คนในสังคมได้รับทราบ ท่านคิดว่าลักษณะใดที่จะทำให้ตัวท่านมีเสน่ห์มากขึ้นก็ขอให้เลือกนำไปปฏิบัติ เพื่อช่วยให้ชีวิตรักของท่านสมหวังอย่างยั่งยืน

ในความคิดของผม คนที่มีเสน่ห์คือคนที่ มีน้ำใจอย่างจริงใจ เพราะเป็นสิ่งที่ทำได้ยากที่สุดและไม่สามารถหลอกกันได้ง่ายนัก  และผมได้แต่หวังว่า คนที่คิดว่า เสน่ห์ทางเพศ มีพลังดึงดูดเพศตรงข้ามได้มากกว่า ความมีเสน่ห์ จะเปลี่ยนความคิดเสียใหม่  แล้วเลิกแสวงหาการปรับแต่งร่างกายเพื่อเพิ่มพูน เสน่ห์ทางเพศ ด้วยการผ่าตัดเสริมตรงโน้นตัดตรงนั้น ฉีดสารพัดสารเข้าร่างกาย  เสียทั้งเงิน  เสี่ยงทั้งชีวิต จะได้ล้มเลิกความเข้าใจผิดๆนั้นเสีย แล้วหันมาพัฒนาจิตใจและจิตวิญญาณแทน เพื่อเพิ่ม ความมีเสน่ห์ ให้กับตัวเอง ซึ่งจะทำให้ท่านได้พบกับคนที่ให้ความสำคัญกับ ความมีเสน่ห์ มากกว่า เสน่ห์ทางเพศ เพราะพวกเขาคิดได้ว่า รูปธรรมภายนอกเป็นสิ่งไม่ยั่งยืน ส่วนนามธรรม คือของดีที่ซ่อนอยู่ภายในนั้นมีความสำคัญและยั่งยืนกว่า  คนกลุ่มนี้จึงเป็นคนที่มีเหตุผล มากกว่าและน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

หรือท่านคิดว่าไม่จริง?

ไม่มีความคิดเห็น: