ทำไม…..คนเราจึงมีความสุขเมื่ออยู่ในอารมณ์รัก
และจะยิ่งมีความสุขมากขึ้น……….หากสมหวังในรักนั้น
มีอะไรเกิดขึ้นในร่างกายของเราในห้วงแห่งรัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสมอง
และที่สำคัญกว่านั้นคือ เราสามารถควบคุม อารมณ์รัก
ของเราเองได้หรือไม่
นักวิทยาศาสตร์ได้พยายามค้นหาคำอธิบายปรากฏการณ์ที่ทรงพลังของความรักมานานแสนนาน
จนกระทั่งเมื่อความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของเครื่องมือมีมากขึ้นในระยะ 30 กว่าปีมานี้เองที่ทำให้เกิดการค้นพบใหม่ๆอย่างมากมาย
รู้แม้กระทั่งว่า ในยามที่เรามีอารมณ์รักนั้น
เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นที่สมองส่วนไหนบ้าง
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงและตรวจวัดได้เหล่านั้นก็คือ
สารเคมี ที่มีอยู่แล้ว เพียงแต่พวกมันถูกกระตุ้นให้หลั่งออกมาในปริมาณมากกว่าปกติเมื่อมีตัวกระตุ้นที่เหมาะสม
เช่น ภาพหญิงสาวสวยหุ่นดี หรือ ภาพชายหนุ่มรูปงาม รวมทั้งสิ่งที่เป็นนามธรรมต่างๆ
เช่น จินตนาการจากการอ่านนวนิยายรักแนวโรแมนติกและอีโรติกทั้งหลาย
ไม่น่าเชื่อว่า
สารเคมีในสมองที่มีการค้นพบแล้วถึงปัจจุบัน (ค.ศ.2010) มีกว่า 300 ตัว
แต่มีการสรุปหน้าที่ได้อย่างชัดเจนแล้วไม่ถึง 100 ตัว
ในจำนวนนี้มีอยู่หลายตัวทำหน้าที่เกี่ยวกับอารมณ์รัก ซึ่งในที่นี้จะขอพูดถึงตัวที่โดดเด่นจริงๆเพียง
7 ตัว ดังนี้
1. สาร PEA
(Phenyl-ethyl-amine)
นักวิชาการให้ฉายาสารเคมีตัวนี้ว่าเป็น แอมเฟตามีนธรรมชาติ เพราะมันมีฤทธิ์กระตุ้นสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์
ทำให้คนเรามีความสุข เมื่อไรก็ตามที่เราพบใครสักคนที่ดูน่ารัก มีเสน่ห์จนน่าหลงใหล
สมองบริเวณด้านหน้าที่เรียกว่า Orbitofrontal cortex (OFC) ซึ่งอยู่บริเวณหลังกระบอกตาจะถูกกระตุ้นให้หลั่งสาร
PEA
นี้ออกมาแล้วไหลเวียนเข้ากระแสเลือดไปยังส่วนต่างๆทั่วร่างกาย
เกิดความกระชุ่มกระชวยมีพละกำลัง แต่ก็ทำให้เกิดความรู้สึกเสียวซ่านทั้งตัว
หัวใจเต้นแรง หายใจถี่ขึ้น ม่านตาขยาย ใบหน้าร้อนผ่าว รู้สึกประหม่า เหงื่อออก
ท้องไส้ปั่นป่วน
ขณะเดียวกันจะเกิดความรู้สึกเป็นสุขอย่างมากจนเกินกว่าคำพูดใดๆจะบรรยายได้
ในระหว่างที่ความรักกำลังเริ่มก่อตัวขึ้นคือกำลังจีบกันนั้น
สารตัวนี้จะถูกกระตุ้นออกมาอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ทั้งสองฝ่ายเกิดความตื่นเต้นระคนกับความสุข
ต่างฝ่ายต่างมีแรงจูงใจให้มีพฤติกรรมซ้ำๆ เช่นพูดคุยกัน
อยู่ใกล้ชิดกันให้มากที่สุด ยาวนานที่สุด
น่าเสียดายที่สุดเช่นกัน…………..เพราะเมื่อถึงจุดหนึ่งระดับของสารตัวนี้จะค่อยๆลดลงจนทำให้เริ่มรู้สึกหงอยเหงาจับใจ
ไม่สดชื่นร่าเริงเหมือนเดิม บางคนถึงขนาดไม่ยอมพูดจากับใคร กินไม่ได้ นอนไม่หลับ
หมดเรี่ยวแรง ครุ่นคิดถึงคนรักอยู่ตลอดเวลา เมื่อได้พบกันคราใดก็กลับมีความสุขอีก
วงจรแห่งความสุขเช่นนี้จะดำเนินไปสักระยะหนึ่งจนกระทั่งสมองเกิดอาการดื้อสารเคมีของตัวเอง
ต้องการสารตัวใหม่ที่มีฤทธิ์แรงกว่าเดิม
ซึ่งกลไกเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับอาการที่เกิดขึ้นในคนติดยาเสพติดที่ต้องเสพสารตัวเดิมในปริมาณเพิ่มขึ้น
หรือเปลี่ยนไปเสพสารตัวอื่นที่มีฤทธิ์แรงกว่าเดิม
สารที่จะพูดถึงตัวต่อไปคือ……………..โดปามีน(Dopamine)
1 ความคิดเห็น:
ขอบคุณมากค่ะ ข้อมูลเป็นประโยชน์มากค่ะ ขออนุญาติแชร์น่ะค่ะ
แสดงความคิดเห็น