4.
การให้อภัย (Forgiveness)
การที่คนสองคน ซึ่งมีความแตกต่างกันในหลายๆด้านมาอยู่ด้วยกัน
ย่อมจะต้องมีปัญหากระทบกระทั่งกันบ้าง
สิ่งที่ควรคำนึงถึงก่อนตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกันคือ การพิจารณาอย่างรอบคอบถึงศักยภาพในการแก้ปัญหาทั้งของตัวเองและคนรัก
คนโดยทั่วไปเวลาทำอะไรผิดพลาดมักหาข้อแก้ตัวเป็นประจำ หากอีกฝ่ายหนึ่งใช้วิธีการตำหนิติเตียนหรือทำร้ายร่างกายเพราะความโกรธ
ก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่กลับทำให้ปัญหาบานปลายออกไป คำถามคือ พวกเขายังรักกันหรือไม่ ถ้ายังรักกัน
ทำไมถึงไม่เลือกวิธีอื่นที่สร้างสรรค์กว่า
ต่อไปนี้เป็นแนวปฏิบัติที่ผมอยากฝากให้พิจารณาครับ
1. ถามตัวเองว่า คุณรักเขาหรือไม่ อย่าถามว่า เขารักคุณหรือไม่
เพราะคุณไม่สามารถบังคับให้ใครรักคุณได้หากคุณไม่ทำตัวให้น่ารัก
2.
ฝ่ายที่ทำผิดพลาด จะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม ควรที่จะกล่าวคำ “ขอโทษ” ก่อนที่จะถูกทวงถาม
หรือรอจนกระทั่งอีกฝ่ายแสดงความไม่พอใจออกมา
3. อีกฝ่ายหนึ่งตอบรับด้วยการ
“ให้อภัย”
ทั้งคำพูดและการแสดงออก ไม่พยายามขุดคุ้ยเรื่องเดิมขึ้นมาอีก หลีกเลี่ยงคำพูดส่อเสียด เหน็บแนม
ปัญหาเกิดขึ้นเพราะ ฝ่ายที่ทำผิดพลาดไม่ยอมรับผิด ซึ่งอาจเป็นเพราะเขาหรือเธอไม่คิดว่า
สิ่งที่ทำนั้นเป็นความผิดหรือไม่เหมาะสม หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องเสียหน้า เสียศักดิ์ศรี
โดยเฉพาะฝ่ายชายในวัฒนธรรมเอเชียที่คิดว่าตัวเองมีศักดิ์ศรีสูงกว่าเพศหญิง ผู้ชายจำนวนไม่น้อยที่ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียวคิดว่าตัวเองมีความสำคัญกว่าทุกคน
ตัวเองใหญ่ที่สุดในบ้านจึงไม่จำเป็นต้องขอโทษใคร ความคิดเช่นนี้ไม่มีส่วนไหนเลยที่เรียกได้ว่าเป็น
ความรัก แต่เป็น ความเห็นแก่ตัว โดยแท้ และทำให้ความรักจากอีกฝ่ายหนึ่งน้อยลงไปเรื่อยๆ
4. ฝึกพูดคำว่า “ขอโทษ” “ขอบคุณ” บ่อยๆจนติดปาก เพื่อให้เกิดความเคยชิน
สามารถพูด
ออกไปได้ในสถานการณ์อันเหมาะสมโดยอัตโนมัติ
ทุกครั้งที่ท่านรู้สึกโกรธ ผิดหวัง
เสียใจ น้อยใจ ในตัวคนรัก ขอให้ท่านยึดภาษิตไทยที่ว่า “รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ” ซึ่งเป็นประโยคที่ซ่อนความหมายไว้อย่างแยบยล
ดังนี้
รักยาวให้บั่นทิ้งเสียซึ่งความขัดแย้ง
และความไม่พอใจทั้งปวง
รักสั้นให้ต่อความยาวสาวความยืด พูดไม่จบ ชวนทะเลาะ
5. การให้เกียรติกัน (Respect)
เป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน
ปัญหามักเกิดจาก
1. ให้เกียรติฝ่ายเดียว
ในวัฒนธรรมทางตะวันออก มีความเหมือนกันเป็นส่วนใหญ่ที่ว่า
ฝ่ายหญิงมักเป็นฝ่ายที่ต้องให้เกียรติฝ่ายชาย ทำให้เกิดอัตตาและเสพติดเกียรติปลอมๆ
คาดหวังที่จะได้รับเกียรติจากฝ่ายหญิงตลอดเวลา
2. ต่างฝ่ายต่างไม่ให้เกียรติกัน เพราะความรู้สูงด้วยกันหรือมีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต
เมื่อกลับมาบ้านก็ยังไม่ยอมถอดหมวกออกด้วยกันทั้งคู่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น