นิสัยเช่นนี้เปลี่ยนได้หรือไม่
ได้บ้าง แต่ด้วยความยากลำบาก ผู้ได้รับผลกระทบคือคู่รัก
ต้องใช้ความอดทนสูงมาก ส่วนผู้ที่เป็นฝ่ายกระทำต้องมีความตระหนักถึงปัญหาว่า พฤติกรรมเหล่านั้นเกิดจากการเรียนรู้ผิดๆในวัยเด็ก
จากนั้นต้องยอมรับให้ได้ว่าพฤติกรรมเหล่านั้นไม่เหมาะสม และมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนความเชื่อและค่านิยมผิดๆเสียใหม่
เพื่อเป้าหมายสูงสุดคือ การมีพฤติกรรมที่ถูกต้องอันจะนำความสุขกลับมาสู่ชีวิตครอบครัว
หาไม่แล้วชีวิตคู่คงต้องจบลงแบบใดแบบหนึ่งดังกล่าวข้างต้น
ขอให้ท่านพิจารณาสถานการณ์ต่อไปนี้
แล้วถามตัวเองว่า เคยทำกับคนรักของท่านมาก่อนหรือไม่
· ตำหนิติเตียน
จับผิด พูดจาดูหมิ่นเป็นประจำ
· ไม่เคยให้กำลังใจเวลาคนรักทำสิ่งดีๆ
หรือประสบความสำเร็จ
· ชอบซ้ำเติมเวลาคนรักทำผิดพลาด
ไม่เคยปลอบใจหรือให้กำลังใจ
· ตัดสินใจแทน
รู้สึกแทนอยู่เสมอ
· ไม่ยอมรับในความสามารถของคนรัก
ทั้งการแสดงออกด้วยคำพูดและการกระทำ
· พยายามที่จะเปลี่ยนนิสัยและพฤติกรรมของคนรัก
แต่ไม่ยอมเปลี่ยนของตนเอง เพราะคิดว่า ตนเองถูกต้องเสมอ
· แสดงอารมณ์โกรธหรือก้าวร้าวของตนเองได้เต็มที่
แต่ไม่พอใจเวลาเห็นคนรักมีปฏิกิริยาโต้ตอบ (เพราะเธอไม่มีสิทธิที่จะโกรธฉัน)
· ทำร้ายคนรักด้วยคำพูด และการกระทำ (รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์โดยที่คนรักไม่เต็มใจ)
· ต้องการเป็นผู้ชนะหรือ
เป็นฝ่ายถูกต้องในทุกๆเรื่อง
· พูดจาเยาะเย้ยถากถาง
ข่มขู่ ข่มเหงจิตใจทุกครั้งที่มีโอกาส
· ไม่ยอมรับผิดทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองผิด
ไม่เคยกล่าวคำขอโทษ
· มักไม่ตอบคำถามแบบตรงไปตรงมา
แต่ชอบพูดจายอกย้อนวกวน กวนโทสะ
· ชอบให้คำแนะนำ
แต่ตัวเองไม่เคยทำได้
· ปากแข็ง
ไม่เคยขอความช่วยเหลือใดๆจากคนรัก แต่ใช้การออกคำสั่งแทน
· มีความคาดหวังสูงว่าคนรักต้องทำสิ่งต่างๆให้ตลอดเวลา
· คำว่า
“ขอบคุณ” ไม่เคยหลุดออกจากปาก
· ไม่ค่อยเอาใจคนรัก
แต่ชอบให้คนรักเอาใจ
· ไม่ยอมรับว่าตนเองมีลักษณะต่างๆดังกล่าวข้างต้น
ลักษณะนิสัยและพฤติกรรมต่างๆเหล่านี้
หากมีอยู่ในคู่รักใด ไม่ว่าจะเป็นแฟนหรือภรรยาสามีกัน
จะเป็นตัวขัดขวางพัฒนาการของความรักไม่ให้เติบโตต่อไป แต่ทำให้เกิดความอึดอัดและบรรยากาศที่ตึงเครียดในครอบครัว
หากปล่อยเนิ่นนานออกไป ความเครียดจะเปลี่ยนเป็นความเกลียด โกรธแค้น ชิงชัง
รักจืดจางลงทุกวัน…….จนหมดรักในที่สุด สำหรับผู้ที่เป็นฝ่ายแสดงอำนาจนั้น มักจะไม่มีความรักให้กับคู่รักของตนมาตั้งแต่เริ่มแรก
เพราะความที่เป็นคนมีบุคลิกประจำตัวเช่นนั้นมาก่อน (แข็งกระด้าง
หลงตัวเอง ชอบแสดงอำนาจ โดยเฉพาะกับคนที่อ่อนอแกว่า)
ประกอบกับการมีความเชื่อและทัศนคติผิดๆ โดยเฉพาะเพศชายที่มักคิดว่า ผู้ชายใหญ่กว่า
สำคัญกว่าผู้หญิง บุคคลประเภทนี้มักไม่ค่อยมีอารมณ์สุนทรี ไม่ชอบฟังดนตรี ไม่สนใจงานศิลปะต่างๆ
ใช้สมองซีกเดียวในการดำเนินชีวิตประจำวัน ไม่สนใจหลักศาสนาและหลักปรัชญาใดๆ มองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ
จึงทำให้พวกเขาไม่มีพัฒนาการทางจิตวิญญาณ กลายเป็นคนเห็นแก่ตัวถาวร
ไม่ยอมเสียเปรียบ ไม่ประนีประนอม เอาแต่ใจตัวเอง อยู่ไหนมักมีคนรักน้อยกว่าคนชัง
บางคนประสบความสำเร็จทางโลกได้อย่างน่าอัศจรรย์
แต่ชีวิตครอบครัวกลับล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
ก่อนผ่านเรื่องใหญ่นี้ไปบทอื่น
ขอสรุปพฤติกรรมทั้งหมดที่หากเกิดขึ้นในวัยเด็กเล็กระหว่าง2-5
ปี อาจส่งผลกระทบกับชีวิตรักในอนาคต ดังนี้
1. การไม่ยอมรับ
ไม่ยอมเชื่อฟังความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะของคุณแม่คุณพ่อ หรือญาติผู้ใหญ่
เลือกใช้การต่อสู้ ต่อต้านด้วยวิธีการต่างๆที่ไม่เหมาะสม เช่น ร้องไห้ไม่หยุด
ลงไปนอนดิ้นบนพื้น ขว้างปาข้าวของ ใช้การทำร้ายคนอื่นหรือตนเองเป็นเครื่องต่อรอง
ผลกระทบ ต้องการเป็นใหญ่ในครอบครัวด้วยการแสดงอำนาจและใช้อำนาจอย่างผิดๆ
เช่น ใช้กำลังทำร้ายร่างกายคนรัก (มักเป็นผู้ชาย)
มีพฤติกรรมไม่สมวัย เช่น เวลาถูกขัดใจ จะข้าวปาสิ่งของ ร้องกรี๊ด
ทำร้ายตัวเองหรือคนรัก (มักเป็นผู้หญิง) บรรยากาศในบ้านมีแต่ความอึดอัด ขัดแย้ง ไม่มีความสงบสุข ส่งผลเสียถึงลูกๆ
2. การสมยอม
อย่างไม่เต็มใจ เก็บกดความรู้สึกและความต้องการเอาไว้ด้วยความขมขื่น
ทำตัวเหมือนเป็นทาสในเรือนเบี้ย แต่สะสมความเคียดแค้นชิงชัง รอวันประกาศอิสรภาพ
ผลกระทบ เป็นผู้ใหญ่ที่รู้สึกไม่มีคุณค่าในตัวเอง
หดหู่เศร้าหมองอยู่เสมอ ไม่มีความสุข เมื่อผิดหวังในรัก ก็มักเลือกที่จะฆ่าตัวตายเพื่อหนีจากความทุกข์ทรมานใจ
บางรายที่มีความโกรธแค้นคนรักอย่างรุนแรงก็อาจฆ่าคนรักก่อนที่จะฆ่าตัวตายตาม
3 . การปรับตัว
เด็กเข้าหาผู้ใหญ่ด้วยความเต็มใจ เพราะได้รับโอกาสให้ตัดสินใจเอง
เข้าใจความหวังดีและยอมรับทางเลือกอื่นๆ ไม่สูญเสียความรู้สึก ขอบเขตแห่งความเป็นตัวตน (ego
boundary)
ไม่ถูกกระทบมากเกินไป
ผลกระทบ เป็นผู้ใหญ่ที่มีความเชื่อมั่นและภาคภูมิใจในตนเอง
แต่ไม่หลงตัวเอง มีเหตุผล ควบคุมอารมณ์ได้ดี ให้เกียรติผู้อื่น
มีการแบ่งปันการใช้อำนาจอย่างเหมาะสมและสร้างสรรค์กับคู่ครอง ครอบครัวมีความสุข
ตอนต่อไปเป็นตอนที่ 4 ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายของบทนี้ จากนั้นผมจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ “กิ๊ก” ที่คุณอาจจะอยากมีกับเขาบ้าง หรือ มีอยู่แล้วแต่เริ่มก่อเรื่องวุ่นวายจนอยากจะหนี
แต่หนีไม่ออก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น